ช่างให้ความรู้สึกเหน็บหนาวอ้างว้างเสียนี่กระไร
ทำไมในใจของฉันถึงมีฤดูที่แตกต่างจากโลกแห่งความจริงเสียเหลือเกิน
ไม่ได้ตั้งใจอยากอ่อนไหว ไม่ได้อยากอ่อนแอ
แต่ใจกวัดแกว่งดุจดั่งพายุหิมะพัดเข้ากระหน่ำ
ทั้งเปียกและชื้น..เย็นยะเยือก เป็นน้ำแข็ง
ชา..ไปหมด เหมือนไม่รู้สึกอะไรแล้ว
นี่ฉันยังหายใจอยู่ใช่ไหม..
หวังว่าพายุหิมะนี้จะผ่านพ้น
เฝ้ารอคอย...ว่า

และเมื่อพระอาทิตย์สาดแสงมา
ฉันก็หวังว่า...บางทีฉันจะยังหายใจ
1 comment:
เกือบจะเอาไม่รอดจากโยคะมหาโหดแต่ก็กะว่าวันนี้จะโพสต์ให้ได้555 เดี๋ยวน่ะขอคิดก่อน...
ไม่รู้เหมือนกันจริงๆหว่ะ
ก็อยากจะเข้าใจ แต่คงไม่เข้าใจแกเท่าไหร่
บางทีรู้สึกว่า แกน่าจะคิดพูดทำให้มันสอดคล้องกันมากกว่านี้ ชีวิตแกอาจจะไม่สับสนขนาดนี้ก้อได้
แล้วแกจะคิดอะไรกันมากมายนัก ถ้าคิดแล้วมันมากความนัก บางทีก้อลองมีความสุขวันต่อวันดูสิ ทำให้มันง่ายๆหน่อย แล้วมึงรักใครก็บอกเค้าไป อยากทำอะไรเพื่อใครก็ทำแม่งไป อย่าไปเอาแต่คิดว่ามันควรจะเป็นงั้นงี้แล้วไม่เป็นก็ปวดหัว ไม่มีใครเพอร์เฟคหรอกว่ะ แล้วถึงคนเพอร์เฟค(ในนิยามของแกล่ะกัน)จริงแน่ใจรึว่าคือสิ่งที่ชอบ หรือที่มึงคิดว่ามันไม่ใช่จริงๆอย่างที่มึงว่า แล้วก็อยากให้มึงคิดดูว่าที่น้ำตามันไหลน่ะเป็นเพราะใคร อะไร ก็ค่อยมาคิดแก้ให้มันถูกที่ถูกทาง
โอยพูดไรไม่รู้แล้วว่ะ มั่วๆ งงๆ 555 เพื่อนมึงก็บ้าบอพอๆกันนี่
แต่อย่างที่เราก็พูดกับตัวเองบ่อยๆ
แล้วสุดท้ายก็ลงว่า ไอ้พูดหน่ะง่าย จะทำได้มั้ยละเนี่ย
สรุปว่า
ให้มึงคิดในแง่ดีก็เอาเป็นว่ายังไงก็มีเพื่อนอีกคนที่แม่งไม่รู้เหี้ยอะไรกะชีวิตอยู่ด้วย
ถึงแกจะตาบอดก็มีเพื่อนที่เป็นคนตาบอดที่อยู่เป็นเพื่อนอีกคนคงอุ่นใจจากหิมะของมึงขึ้นซักนิดก็เท่าที่จะทำได้
Post a Comment