เมาขี้ตามาถึงสุราษฎร์ ฯ ตอน ตี 5 พอดี กว่าจะงัวเงียให้เห็นทางก็พบป้ายหน้าประตูที่พอจะอ่าได้ว่า ศาสนสถาน กลั้นใจก่อนก้าวเข้ามาพร้อมกับตั้งใจว่า จะทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง
กินอาหารเช้ามังสวิรัติ มื้อแรกด้วย ข้าวต้ม ผัดผัก ไข่เค็ม และยำเต้าหู้ยี้แสนอร่อย (อันนี้ชอบมากแต่หากินไม่ค่อยได้) ตามด้วยกล้วยหอม 1 ลูก กินหมดนี่ก็จุกพอดี ตอนนี้กำลังต่อสู้กับความง่วงที่เข้าครอบงำ
ว่าจะไม่คิดถึงเธอ ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ใจล่องลอยไปคิดว่า เธอกำลังทำไรอยู่น้า ตื่นนอนหรือยัง เพนเขียนชื่อเธอเป็ฯ contact person ในใบกิจกรรมด้วยแหละ อิอิ
กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์กับเกมส์ภูเขาไฟระเบิด ทำให้เรารู้จักทุกคนในค่ายในเวลาอันสั้น ออกกำลังกายยามเช้า พบว่าหลาย ๆ คนนำท่าโยคะมาสอน สอนด้วยดีกว่า ท่าง่าย ๆ ท่าก้มตัวละกัน
มีหลายช่วงวัยและหลายกลุ่มอาชีพ ได้สนทนากับป้อย (อายุเท่าเราเลย) เด็กจิตรกรรม ม.ศิลปากร ถึงเรื่องงานและอื่นๆ ป้อยมองว่าเราทำงานหนัก แต่ของป้อยชิล ๆ ตามอารมณ์ กิจกรรมให้วาดรูปแนะนำตัวเอง ป้อยวาดรูปเราเป็นนกเพนกวินสีชมพู (ช่างรู้ใจ) สะพายเป้ที่หมายถึงภาระหนัก และแอบแฝงความโหดไว้ที่ลายเส้นดำ 555 อันนี้รู้จริง ง่วงแฮะ
10.45 น. พี่มิคเล่าเรื่องฉลาดทำบุญปี 2 จิตอาสาปันศรัทธาและอาทร เล่าเรื่องโครงการต่าง ๆ ของปีที่แล้ว และของปีนี้และกิจกรรมคร่าว ๆ แบ่งเป็น
1. การพูดคุยทำความรู้จัก
2. งานอาสาสมัคร
3. การปฏิบัติธรรม
และกิจกรรมอื่น ๆ ตามความเหมาะสม
สิ่งที่เรียนรู้ ในวันนี้ เข้าใจเรื่องตัวกู ของกู แท้ที่จริงเมื่อเราไม่มีตัวกู และไม่เอาสิ่งใดเป็นของของเรา คือการลดความเห็นแก่ตัวลง
ถึงจักรปาณี ภาคบ่ายเป็นการท่องป่าสวนโมกข์ อยากให้แกมาด้วย มีดอกไม้เล็ก ๆ น่ารักตลอดทาง
ได้เห็นกุฎิพระที่มีน้ำมันหล่อเสา(กันแมลง) มีใบเตยใหญ่มากกก ยาวแระมาณ 4 เมตรกว่า ๆ
ถ้าแกมาด้วยคงกระโดดโลดเต้น ว้าว ๆ ถ่ายรูปไปตลอดทาง ชอบสุดคือดอกไม้เล็ก ๆ สีม่วง
ที่แทรกตัวขึ้นตามซอกหินที่เป็นทางเดินทอดไปสู้กุฏิ น่ารักมาก
เจอน้องลิงกระโดดหนึ่งตัว เดินไปบอกนิ้งว่า “นิ้ง ๆ แกเจอเพื่อนแล้ว” นิ้งหันมาทำหน้าแบน 555+
(นิ้ง เป็นเด็กนิเทศน์ จุฬา เป็น freelance ให้กับ สสส. วงการเดียวกัน)
เดินพอเหนื่อยก็มาถึงโบสถ์กลางแจ้ง บนเขาพุทธทอง ลมเย็นสบาย ฟังพระอาจารย์เบรรยาย
อ้อ! เห็นอ่างอาบน้ำที่มีปลาหางนกยูง ที่จักรบอกด้วย แต่เป็นที่สรงน้ำพระ
หลังจากซดโฮกน้ำปานะ+ข้าวเย็นจนอิ่มแปล้แล้ว
ภาคค่ำ คุณหมอบัญชา (พงษ์พานิช มั๊งนะ ไม่แน่ใจถามนิ้งมา) ผู้ที่ทำการศึกษาค้นคว้างานเขียนของทานพุทธทาสตอนนี้
เล่าถึงงานอาสาสมัครที่เราต้องทำในวันพรุ่งนี้ ว่าท่านพุทธทาส ได้ศึกษางานหินสลักของอินเดีย
แล้วได้นำมาทำเป็นภาพพิมพ์ปูนปั้นพุทธประวัติเพื่อสอนธรรมะ
พระพุทธเจ้าคือ ความว่างเปล่า
ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา
1 comment:
ยอดเยี่ยม เป็น5วันที่ทรงคุณค่า และขอให้เธอจดจำภาวะสุดยอดนั้นไว้ ไร้ซึ่งตัวกู ของกู โลกจะเป็นไปเชช่นนั้นเอง "ตถตา" เมื่อคิดได้ดังนี้ชีวีก็จะหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง
Post a Comment