สุดท้ายก็พบว่าตนเองช่วงนี้จิตตก
แบบมาหลายทาง บางคนบอกว่า
ช่วงนี้ดวงดาวโดยรวมอ่อนกำลัง
หลายๆ คนคงรู้สึกเหน็ดเหนื่อย
ซึ่งเป็นพลังร่วม
ส่วนเรื่องเรียนเป็นเรื่องเดียวที่ชอบมาก
เรื่องอืนนั้น หนักเอาการ
แต่ก็เบาลงเมื่อได้ไปเรียน
เวลาเรียนยังทำให้ เห็นข้อดี
ของความยากลำบาก
คือโอกาสที่เราได้ฝึกปฏิบัติมากขึ้น
ก็ดีไปอย่างที่ตอนนี้มีมหา'ลัย
ให้มาหย่อนกายใจ วันนี้ก็เหมือนกัน
มานั่งคนเดียวก็ดีไปอีกแบบ
ได้นั่งชิลๆ คุยกับคอม
และเพื่อนๆ ที่อยู่ในคอม
ทำให้รู้สึกไม่ห่างกันนัก
อ่านบล๊อกคนนั้นคนนี้
แล้วคิดถึงเป็นบ้า
เหมือนไม่ได้เจอกันนานแล้ว
คงเพราะทุกทีเจอกันบ่อยมาก
ทำให้คิดถึงตอนทำงานด้วยกัน
แม้งานจะหนักแต่มันก็สนุกมาก
รับรู้ว่าความห่างไกล
สร้างความรู้สึกอุ่นๆ ในหัวใจ
และอุ่นๆ ชื้นๆ ที่ขอบตา
ช่วงนี้เรียนรู้กับเรื่องของตัวเองแปลกๆ
เลยรู้สึกต้องการความเป็นส่วนตัว
เพื่อใคร่ครวญมากกว่าปกติ
มีคำถามและความสงสัยมากขึ้นๆ
แต่ก็อยู่กับความสงสัยแบบนี้ได้
ราวกับเพื่อนสนิท ที่ไม่ได้ทำให้วุ่นวายใจ
และด้วยความอดทน อีกคำที่ต้องท่องเอาไว้
"อดทน" กับความรัก หรือก็คือ
"ความเชื่อ" ของเรานั่นเอง
แค่ไม่รู้เมื่อไรทุกอย่างจะคลี่คลาย
"ไม่มีความทุกข์ใดในโลกที่มนุษย์เราผ่านไม่ได้"
จากคุณหมอประเวศ วะสี
8 comments:
คิดถึงเราม้ายยยยพี่เพนนนน
ไปกินหนมกัน
กินถูกๆก็ได้
ไปบีอินๆป่าว
เจอพี่สาวจากเมืองนอก
แต่อยู่ศาลายาใช่ไหม
แง้วๆๆ
แข็งแรงๆๆ ด้วยกันๆๆ
ฮ่าๆ ชอบๆ
เรียนรู้ด้วยใจอย่างคร่ำครวญ
คร่ำครวญมากๆเลยตอนนี้
ไม่ชอบหมอประเวศละ
ใครๆก็ผ่านได้ทั้งนั้นแหละความทุกข์
แต่มันปางตายนี่นา
เหมือนเลือกได้ขอแบบตายไปเลยดีกว่ามามัวหายใจร่อแร่
นั่นสินะ
(ทำพยักหน้าเหมือนซี่รี่ญี่ปุ่นที่ช่วงนี้ดูบ่อยมั่กๆ)
ว่างๆ มาเจอกันมั้งเน้อ
มิสยู้!!
ว่างมาเจอกันบ้างดิ..นะ
เอ๊ะ น้ำปานี่มันกิเลส หลักของน้องนี่ฮ่าๆๆๆ
อยู่กับความทุกข์มันก็มันไปอีกแบบ
อย่าทุกข์ที่เราต้องทุกข์
อย่างเบื่อที่เราเบื่อ
555
อืมม
Post a Comment