ที่เริ่มให้หัวใจทำงานได้มากขึ้น
และร่างการก็คอยประสานเสียงบอกเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านเข้ามา
จริงๆ หัวใจเราก็ทำงานอยู่แล้ว
แต่มันมักจะตกอยู่ภายใต้อำนาจของเจ้าหัว
คือ เริ่มที่ความคิดก่อนเสมอ
คิดแล้วถึงค่อยรู้สึก จากนั้นอะไรๆ ก็ค่อยตามมา
และหลายครั้งเราก็เลือกที่จะหลบเลี่ยงเพื่อก่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิต
เลือกที่จะใช้ชีวิตแบบที่เราสามารถดูแลอารมณ์ตัวเองได้
เมื่อไรก็ตามที่คิดแล้วว่าไม่ไหว ก็จะถอยออกมา
เมื่อยอมให้ตัวเองได้เปราะบางมากขึ้น
ทีนี้เราก็ใช้ใจเข้าไปทำงานได้มากขึ้น
และก็ไม่แปลกที่หลายๆ อย่างเราก็ดูแลมันไม่ได้
อามรมณ์ ความรู้สึกที่พรั่งพรู กันออกมาเป็นสภาวะที่เรียกว่าอารมณ์ท่วม
2. คนทั่วไปคงเรียกว่าความไม่มีเหตุผล
ก็หัวใจมันก็ไม่เคยมีเหตุผลนี่นา รู้แต่ว่ามันรู้สึก รู้สึก เอา ว่าอย่างนั้นอย่างนี้
เศร้า ใจหาย โหวงๆ อบอุ่น พองฟู อิ่มๆ อุ่นๆ ลอยๆ เคลิ้มๆ
มันเป็นอย่างนี้มาสักพักแหละ เราก็ได้แต่ตามดูมันไปกระมัง
ได้แค่ดูไปเวลามันขึ้นๆ ลงๆ และบ้างก็เหมือนว่าใจจะขาด
ต้องตามออกไปเพื่อหาอะไรทำให้มันแล้วใจบ้าง
3. ความรักแบบใหม่ๆ ที่ฉันไม่รู้จัก
พื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย
ที่เขาเรียกว่าเรียนรู้จากพื้นที่เสี่ยง ก็คงเป็นแบบนี้แหละ
คาดหมายอะไรล่วงหน้าไม่ได้เลยสักเรื่อง
เฮ้อๆๆ อยากจัดการนะ แต่
ถ้าทำอย่างนั้น ก็แปลว่าเรายอมให้เจ้าหัวมันยึดอำนาจกลับมาอีกน่ะสิ
ต้องลองเรียนรู้เสียบ้างว่ายอมอ่ะมันเป้นยังไง
และเวลาไม่ต้องจัดการกับอะไรเลยมันเป็นยังไง
No comments:
Post a Comment