Tuesday, August 02, 2011

ข้อความค่อยๆ ทยอยส่งมา

เหมือนว่ามีจดหมายมาถึงเรา
เราค่อยๆ จับเจ้าซองนั้นด้วยใจสั่นระทึก พลิกดูชื่อคนส่งก็เคยได้ยินมาบ้าง
แต่บางคนก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
รู้แค่ว่าเขาเป็นใครเชื่อมโยงกับเรายังไง

ค่อยๆเปิดวองออกอ่าน
ข้อความค่อยๆ ทยอยเข้าสู่การรับรู้คำแล้วคำเล่า
เข้าใจบ้าง งงๆ บ้าง สับสนบ้าง
ที่สำคัญคือตื่นเต้นมากจนเกือบจะเป็นลมทุกครั้ง
ต้องคอยหายใจค่อยๆ ฟังข้อความไปเรื่อยๆ จนจบ

บางทีเป็นเราเองที่อาจจะตื่นเต้นมากไปหน่อย
และความอยากรู้นั้นก็ช่างมากมาย
เห็นตัวเองปรารถนาความพิเศษ
ทั้งที่ชีวิตคือความธรรมดา

ฉันอาจไม่เข้าใจทั้งหมดที่เธอส่งมา
และคงต้องใช้เวลาอาจจะสักช่วงหนึ่ง
หรือชั่วชีวิตเพื่อเข้าใจมันมากขึ้น
ในแบบที่ฉันเป็น

คนที่เราน่าจะเจอมาตั้งนาน
หากยังไม่ถึงเวลาก็คงคลาดแคล้วกันไป
เื่มื่อถึงเวลาข้อความเหล่านั้นจึงถูกส่งมา

ในวันที่ไม่รู้ว่าต้องเดินไปทางไหน
ทุกเส้นทางมองออกไปไม่เห็นอะไรเลย
โคตรท้อ ว้าเหว่ และรอคอยคำตอบ
อยากได้ยินเสียงข้างในว่าต้องทำไง
ฉัน..เฝ้ารอ และเริ่มป่วย...
มันอับจนหนทางและหดหู่จนรู้สึกว่า
เราก็คงเอาตัวเองไม่รอดอีกครั้ง
เลี้ยงตัวเองไม่ได้เอาตัวไม่รอด
และสุดท้ายมันคงล่มสลายไปซะทุกอย่าง

คงเสียใจที่รู้สึกว่าคนอื่นที่มองว่าเราโอเค จัดการไรได้ เจ๋ง
เรียนรู้อยู่บนเส้นทางเขาคงด่าว่าฉันโกหก
สิ่งที่ฉันทำมันก็โกหก
จะสอนใครได้ตัวเองก็ยังเอาไม่รอด
อับอาย เอย เจ้าชีิวต
ฉันพาเธอมาพบทางตันอีกครั้ง และมืดมนยิ่งกว่าครั้งใดๆ
ข้างในอยากนั่งอยู่เฉยๆ ร้องไห้อย่างที่ไม่รู้ว่าเอาน้ำตามาจากไหน
เจ็บปวดเกินกว่าจะรู้สึกตัว

แต่ชีวิตทุกวันมีคน มีงานที่ต้องออกไปทำมากมาย
ทั้งๆ ที่ไม่อยากออกไปไหน และไม่อยากเจอใคร
เอ่ยปาก ชวนคนอื่น ออกไปเป็นเพื่อน
คงเพราะกลัวตัวเองต้องอยู่คนเดียว

แต่ช่วงเวลาของการอยู่คนเดียวตอนนี้ช่างแสนวิเศษ
ฉันดื่มด่ำความเงียบ และเงี่ยหูฟังเสียงข้างใน
แม้มันเงียบ และมืดมิด ทุกวันฉันยังคงเฝ้าทำเช่นนั้น
ที่ผ่านมาด้วยความท้อแท้ และสิ้นหวัง

แล้วข้อความของครูก็ส่งมา
ครูก็เป็น ครูก็ไม่รู้ ย่อยยับ สิ้นหวัง และครูก็ต้องเดินผ่านมันไป
ใช่มันจะเปราะบาง และน้ำตาจะไหลตลอดเวลา
แต่นี่แหละคือเส้นทาง

ถ้อยคำที่ครูส่งมาทำให้สิ่งที่ต้องเผชิญ เป็นไปด้วยความกล้าหาญ
และคำว่าศรัทธา
ฉันอาจไม่รู้อะไรเลย เลี้ยงตัวเองไม่ได้ ล้มลง และล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า
และตายลง แต่นั่นก็คงไม่สำคัญอีกต่อไป
เมื่อเราต้องเจ็บปวดและทุกทรมานกับสิ่งที่เราต้องเจอ
สิ่งที่เราไม่รู้ มันดูทรมานกว่าสิ่งที่ประสบตรงๆ เสียอีก

ขอบคุณโลกที่ส่งครูมาในช่วงเวลาล้ำค่าเสมอ
น้ำตาที่ไหล เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ยึดโยงพวกเราไว้ตรงนั้น
และอ้อมกอดยืนยันการอยู่ร่วมบนเส้นทาง

No comments: